คำแนะนำก่อนการซื้อรถมือสอง
หลายๆ ท่านคงเคยพบกับปัญหา ซื้อรถมาแล้วซ่อมไม่รู้จักจบ ขณะขับรถมีเสียงกวนใจอยู่ตลอด มองดูสภาพรถหลังซื้อมาแล้ว ไม่ประทับใจเลย เครื่องยนต์เสียงดังไม่ปกติ
วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการดูรถแบบคร่าวๆ เพื่อเป็นวิชาติดต้วสำหรับท่านที่ชอบซื้อรถมือสองครับ
การดูรถให้ดูที่ X จุด ดังต่อไปนี้ครับ
1. หลังคา ….ให้ลองเคาะุูดูครับ เคาะดูรอบๆ ว่าเสียงเหมือนเหล็กบางๆ หรือไม่ ถ้าเคาะแล้วเสียงดังป๊อกๆ เหมือนหลังคาจะหนา ๆ (หนาสีโป้ครับ) แสดงว่ารถคันนี้เคยเคาะ ดัดหลังคามาแล้ว ทั้งนี้นี้รถอาจจะเคยพลิกคว่ำมาก่อนก็เป็นไปได้ครับ
2. ขอบประตู …. ดูตามรูปครับ ถ้าเจอแบบนี้ แสดงว่ารถคันนี้ เคยโดนชนมาก่อนแน่นอนครับ หรือบางคันมีอาการสีบวม มีคราบสนิมแตกออกมาก นั่นก็อาการเดียวกันครับ
3. หัวโช๊ค ภายในห้องเครื่องครับ ลองเปรียบเทียบ 2 ข้าง ซ้าย-ขวา ว่ามีความผิดปกติหรือไม่
ถ้ามีรอยบุบ รอยยับ นั่นแสดงว่ารถคันนี้เคยประสบอุบัติเหตุ มาแล้วครับ
4. ที่ล็อกฝากระโปร่งท้าย ในรูปถือว่าสภาพดีครับ หากดูไมดี เหมือนกับใช้งานหนักมาก สันนิฐานไว้เลยว่า รถคันนี้ เคยเป็นรถแท็กซี่มาก่อนครับ (รถกลับสีครับ )
5. สภาพพื้นภายในกระโปรงท้าย ถ้ารถเคยโดนชนหนักมักมีรอยเคาะ รอยยับครับ
6. ขอบยางสะโพกซ้าย-ขวา ก็บ่งบอกได้ครับ
7. คอนโซลด้านหน้า ถ้าแตกแล้วราคารถจะหายไปเยอะเลยครับ
8. ห้องเครื่องครับ ดูว่ามีน้ำมันเยิ้มข้างตัวเครื่องหรือไม่ ถ้ามาก คือสีน้ำมันดำเข้ม แสดงว่าเครื่องเริ่มหลวมแล้ว หรือ บ่งบอกถึงการดูแลรักษารถที่น้อยมากครับ
( ไม่แน่เสมอไปครับ อาจจะแค่ประเก็นฝาวาวหมดอายุ รั่วครับ )
9. หม้อน้ำ… หากมีคราบเหลืองๆ ตามรูป เครื่องยนต์มักจะมีปัญหาเรื่องความร้อน
ลองสังเกตุดูครับ ว่าเจ้าของรถมักจะเตรียมน้ำใส่ขวดไว้หลายขวด เอาไว้เติมหม้อน้ำครับ ซื้อมาแล้วจะลำบากนะครับ
Tip :
การดูว่ารถมีปัญหาเรื่องความร้อนหรือไม่ ดูได้โดย
1. เปิดฝาหม้อน้ำ (ขณะเครื่องเย็นนะครับ)
2. เติมน้ำลงในหม้อน้ำให้เกือบเต็ม แล้วสตาร์ทเครื่อง
3. สังเกตุฟองอากาศ ที่ลอยขึ้นมาจากด้านในหม้อน้ำ
ถ้าเป็นฟองเล็กๆ ลอยเป็นฟองสีขาว ถือว่าเครื่องกำลังมีปัญหาเรื่องความร้อน แต่ยังน้อยยังขับได้ แต่อายุการใช้งานจะสั้น และปัญหาจะตามมาภายหลัง
แต่ถ้าถึงขนาดน้ำทะลักออกจากหม้อน้ำ จนผิดปกติ เครื่องยนต์มีปัญหาเรื่องฝาสูบแน่นอนครับ
แค่นี้ก่อนครับ แล้วผมจะมาเขียนต่อให้ภายหลังครับ
สมคิด www.recyclethai2011.com